ผู้ปกครองไม่ควรตำหนิและตำหนิเด็ก - สิ่งนี้ไม่ได้ผล

Pin
Send
Share
Send

การกล่าวหาว่าเป็นวิธีการศึกษาไม่ได้นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ ยิ่งกว่านั้นระดับความเครียดของเด็กเพิ่มขึ้นจากสิ่งนี้และเขาก็เริ่มทำตัวแย่ลง

นักจิตวิทยาการวิจัยชาวฟินแลนด์จากมหาวิทยาลัยJyväskyläได้ข้อสรุปที่จะช่วยให้พวกเราหลายคนต่อต้านข้อกล่าวหาที่ไม่มีที่สิ้นสุดและไร้ประโยชน์เช่น "ฉันเอาชีวิตของฉันมาให้คุณ! และคุณ ... " แม้ว่าเราเองจะต้องเข้าใจสิ่งเหล่านี้อย่างสมบูรณ์

นักวิทยาศาสตร์พบว่าครอบครัวเดียวกันใช้“ การศึกษาเรื่องการฟ้องร้อง” ต่างกันในแต่ละวัน รูปแบบดังต่อไปนี้ถูกสังเกตเห็น: ยิ่งพ่อแม่กระตือรือร้นในการติติงและกล่าวหามากเท่าไหร่ระดับความเครียดและความโกรธก็ยิ่งสูงขึ้น สภาพจิตใจนี้กินเวลาสองวัน เด็ก ๆ ถูกพ่อแม่โกรธเคืองประสาทและไม่แม้แต่จะแก้ไขพฤติกรรมของพวกเขา

แทนที่จะแสดงให้เด็กเห็นอย่างชัดเจนว่าอะไรที่ทำได้และไม่สามารถทำได้ (ถ้าคุณทำสิ่งที่ถูกห้ามคุณจะต้องถูกลงโทษ) ผู้ปกครองหลายคนใช้วิธีการเช่นเดียวกับการกล่าวหาในความเป็นจริงจัดการกับมโนธรรมและความผิดของเด็ก . หนึ่งในคำติชมที่พบบ่อยที่สุดคือเมื่อผู้ปกครองเตือนลูก ๆ ของพวกเขาอย่างไม่รู้จบว่าพวกเขาทำเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและพฤติกรรมที่ไม่ดีทำให้พวกเขาอารมณ์เสีย

จากการสำรวจของนักจิตวิทยาจากฟินแลนด์พบว่าผู้ปกครองที่เหนื่อยล้าและอยู่ในสภาวะเครียดทำตัวเป็นแบบนี้ แต่บางคนก็ใช้วิธีการทางจิตวิทยาเช่นนี้เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่านี่เป็นวิธีที่จะเข้าถึงจิตสำนึกของเด็กและแก้ไขมัน คนอื่น ๆ โดยไม่ลังเลให้กดดันเพราะเมื่อพวกเขาถูกเลี้ยงดูมาในแบบเดียวกัน

จากผลการศึกษาพบว่าทั้งพ่อและแม่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกผิดในเด็ก และไม่น่าแปลกใจที่ระดับความเครียดจะสูงกว่าสำหรับเด็กในครอบครัวที่พ่อแม่ทั้งสองใช้วิธีนี้ในทางที่ผิด แต่บทบาทของพ่อมีความสำคัญเป็นพิเศษที่นี่ อาจเป็นเพราะพ่อไม่เหมือนคุณแม่ที่ให้คุณค่ากับลูกมากกว่า

Pin
Send
Share
Send

ดูวิดีโอ: 11 ขอผดพลาดในการเลยงดททำลายการเตบโตของเดก (กรกฎาคม 2024).